นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  บริษัท ออคตากอน อินเทอร์แอคทีฟ จำกัด ต่อไปนี้จะเรียกว่า "บริษัท" ขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เนื่องจากนโยบายนี้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฎิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านใช้บริการและเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท
 “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม ตัวอย่างเช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น
   บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข ดัดแปลง หรือหยุดการให้บริการ ไม่ว่าชั่วคราว หรือถาวร (หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของบริการ) ตามที่บริษัทเห็นสมควร โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า และจะไม่รับผิดชอบต่อท่าน หรือต่อบุคคลที่สามในการแก้ไข ดัดแปลง หรือการหยุดให้บริการที่เกิดขึ้นนี้ ดังนั้น กรุณาติดตามและตรวจสอบข้อตกลง เงื่อนไข และข้อความเพิ่มเติมต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ

1) ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของการเก็บรวบรวม และประเภทของการบริการที่ท่านเลือกใช้กับบริษัท มีดังนี้
  • ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล เป็นต้น
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
  • ข้อมูลทางเทคนิค เช่น IP address, Cookie ID, ประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Activity Log) เป็นต้น
  • ข้อมูลอื่นๆ เช่น รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทจะไม่เก็บและใช้ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน เช่น เชื้อชาติ ความเชื่อทางศาสนา ประวัติอาชญากรรม เว้นแต่เป็นไปตามที่ข้อบังคับและกฎหมายกำหนด
    หรือโดยความยินยอมของท่านหรือโดยความยินยอมของท่าน

  • 2) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

    ท่านสามารถเข้าเยี่ยมเว็บไซต์ของบริษัท ได้โดยไม่ต้องบอกว่าท่านเป็นใคร หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านให้บริษัททราบ ระบบข้อมูลของบริษัทจะจัดเก็บ จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม เวลาที่เข้าเยี่ยมชมโดยเฉลี่ย หน้าที่เข้าเยี่ยมชม เป็นต้น โดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อจัดอันดับข้อมูลเป็นชิ้นส่วนของข้อมูลที่สามารถส่งถึงและติดตั้งในระบบของท่าน โดย Cookie นั้นจะได้รับการกำหนดโดยบริษัท และจะสิ้นผลลงภายหลังจากการเชื่อมโยงข้อมูลในส่วนของบริษัท บริษัทใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อวัดจำนวนผู้ใช้ และปรับปรุงเนื้อหาในเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง
    บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่สามารถระบุตัวตนได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมล รายละเอียดการติดต่อ เพื่อประโยชน์ต่อท่านในระยะเวลาที่เหมาะสมจำเป็นต่อการให้บริการ ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลกับบริษัท หรือขอรับการบริการจากบริษัท ผ่านช่องทางโทรศัพท์ การโต้ตอบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) การกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ หรือการติดต่อผ่านเว็บไซด์ แอพพลิเคชั่นหรือช่องทางอื่นใดของบริษัท เป็นต้น

    หากท่านระบุความจำนงในการรับทราบข้อมูลการบริการต่างๆ ของบริษัท หรือในการติดต่อกลับ หรือเพื่อตอบปัญหาต่างๆ บริษัทจะแจ้งข้อมูลต่างๆ ไปยังท่านผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น ขึ้นกับโอกาสและความสะดวกของบริษัทในการติดต่อไปยังท่าน

    3) วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยบริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ ดังต่อไปนี้
  • ผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ (เช่น DigitalOcean, Google Cloud Platform, Microsoft Azure)

  • 4) การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
     1. เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ หรือประสบการณ์การใช้งาน
     2. เพื่อการบริหารจัดการภายในบริษัท
     3. เพื่อวัตถุประสงค์ในการสมัครงาน การเป็นพนักงาน หรือวัตถุประสงค์อื่นใดที่เกี่ยวข้อง
     4. เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะ หรือตอบสนองข้อร้องเรียน
     5. เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไข (Terms and Conditions)
     6. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆ จากหน่วยงานราชการ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
     7. วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่สนับสนุนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจากท่านเป็นครั้งคราว

    5) การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ ดังต่อไปนี้
     1. การบริหารจัดการภายในองค์กร
     บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในบริษัทเท่าที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลภายในสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ ภายใต้นโยบายนี้เพื่อประโยชน์ของท่านและผู้อื่นมากขึ้น
     2. บุคคลภายนอก
     บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก ซึ่งอาจรวมถึงบริษัทในเครือ ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เพื่อติดต่อและประสานงานในการให้บริการผลิตภัณฑ์หรือบริการ และให้ข้อมูลเท่าที่จำเป็นเกี่ยวกับความพร้อมใช้งานของผลิตภัณฑ์หรือบริการ
     nbsp;3. การบังคับใช้กฎหมาย
    &ในกรณีที่มีกฎหมายหรือหน่วยงานราชการร้องขอ บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานราชการ เช่น ศาล อัยการ ตำรวจ เป็นต้น

    6) สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

    ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
     1. สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากท่านได้ให้ความยินยอม บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา
     2. สิทธิขอเข้าถึง (right to access) ท่านมีสิทธิขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมอยู่ และรับสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล
     3. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่าน หรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
     4. สิทธิขอแก้ไขข้อมูล (right to rectification) ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
     5. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้
  • เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัททำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
  • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ บริษัทได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
  • เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  •  6. สิทธิขอคัดค้าน (right to object) ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของ ท่านโดยชอบด้วยกฎหมายหรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์
     7. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นใน การเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
     8. สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้น โปรดติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ หรือท่านสามารถยื่นคำขอมายังบริษัท โดยคลิกที่ แบบคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำขอใช้สิทธิจากท่าน ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ หากบริษัทปฏิเสธคำขอบริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

    7) ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัท หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ที่เกี่ยวข้องตามนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดไว้ บริษัทจะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

    8) การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามหลักการ การรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ลบ ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งาน ข้อมูลส่วนบุคคล (access control) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของบริษัท

    9) การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

    ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกิดขึ้น บริษัทจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของท่าน บริษัทจะแจ้งการละเมิดให้ท่านทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

    10) การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้ตามที่เห็นสมควร โดยท่านสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท

    11) นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเว็บไซต์อื่น

    นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้สำหรับการเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และการใช้งานบนเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น หากท่านเข้าชมเว็บไซต์อื่นแม้จะผ่านช่องทางเว็บไซต์บริษัท การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ จะเป็นไปตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์นั้น ซึ่งบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

    12) รายละเอียดการติดต่อ

    หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ รวมถึงการขอใช้สิทธิต่างๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ ดังนี้

    1. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
  • ชื่อ: บริษัท ออคตากอน อินเทอร์แอคทีฟ จำกัด
  • สถานที่ติดต่อ: 919/541 ห้อง B อาคารจิวเวลรี่เทรดเซ็นเตอร์ ชั้น 49 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
  • เว็บไซต์: www.8interactive.co.th
  • ช่องทางการติดต่อ: โทร. 02-104-9044 / อีเมล: [email protected]

  • 2. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
  • ชื่อ: จิระพงษ์ มูคำ
  • สถานที่ติดต่อ: 919/541 ห้อง B อาคารจิวเวลรี่เทรดเซ็นเตอร์ ชั้น 49 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
  • ช่องทางการติดต่อ: โทร. 02-104-9044 / อีเมล: [email protected]
  • แบบคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล https://airtable.com/shryI3tWSvWIrSevL






  • เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่
    นโยบายเกี่ยวกับคุกกี้ และ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    คุกกี้จำเป็น            

    เปิด

    คุกกี้สำหรับเก็บสถิติ       

    ปิด

    คุกกี้สำหรับการตลาด        

    ปิด